คุโด้ ชินอิจิ (Kudo Shinichi) ตัวละครจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ในฉบับภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า จิมมี่ คุโด้ (Jimmy Kudo) ให้เสียงภาษาญี่ปุ่นโดย ยามากุจิ คัปเปย์ เป็น "คุโด้ ชินอิจิ", ทาคายาม่า มินามิ เป็น "เอโดงาวะ โคนัน"
สำหรับเสียงพากย์ไทยโดย อรุณี นันทิวาส (ไทก้า,โมเดิร์นไนน์), เป็น "เอโดงาวะ โคนัน" และ ไกวัล วัฒนไกร (วิดีโอสแควร์), ภัทรวุฒิ สมุทรนาวี (ไทก้า), นิรันดร์ บุญยรัตพันธุ์ (โมเดิร์นไนน์) เป็น "คุโด้ ชินอิจิ"
ตามเนื้อเรื่อง ชินอิจิเป็นนักสืบ ม.ปลายปีที่ 5 ห้อง B (ม.5) โรงเรียนมัธยมปลายเทตัน ที่มีชื่อเสียง ได้รับขนานนามว่า "ผู้กอบกู้วงการตำรวจญี่ปุ่น", "ยอดนักสืบแห่งตะวันออก", และ "เชอร์ล็อกโฮล์มแห่งยุคเฮย์เซ" เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของ คุโด้ ยูซากุ และคุโด้ ยูกิโกะ เกิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม อาศัยอยู่ที่เมืองเบกะ หมู่ 2/21
วันหนึ่ง ชินอิจิได้พา โมริ รัน เพื่อนสมัยเด็กไปยังสวนสนุกทรอปิคอลแลนด์ เพื่อฉลองชัยชนะคาราเต้ระดับเขตของเธอ ชินอิจิได้ไขคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นบนรถไฟเหาะได้ หลังจากที่กำลังจะกลับบ้าน ชินอิจิได้ขอตัวรัน เพื่อตามชายชุดดำต้องสงสัย ชินอิจิได้เห็นการแลกเปลี่ยนระหว่างวอดก้า และประธานบริษัทนอกสวนสนุก หลังจากนั้นไม่นานยิน ชายชุดดำอีกคนได้ตีหัวชินอิจิ หลังจากนั้นยินได้จับกรอกยาพิษ APTX4869 หวังให้ชินอิจิตาย แต่ชินอิจิกลับไม่ตาย แต่สติเลอะเลือน จนบ้ำเบอะว่า ตนเองตัวหดเล็กลง ชินอิจิเริ่มเข้าสู่ความฝัน และหลับนิทรา ร่างกายกลับตัวเล็กลงเป็นเด็ก เมื่อชินอิจิได้สติกลับมาในความฝันจึงรีบกลับบ้าน และปรึกษา ดร.อากาสะ ฮิโรชิ นักวิทยาศาสตร์ข้างบ้านตน โดย ดร.อากาสะ ได้แนะนำให้ชินอิจิไปอยู่บ้านของรัน หรือ สำนักงานนักสืบโมริ เนื่องจากถ้าอยู่บ้านตนเองหรืออยู่บ้านของ ดร.อากาสะ จะอันตรายเพราะองค์กรชุดดำอาจจะมาตรวจในบ้านจึงให้ไปอยู่บ้านของรันหรือสำนักงานนักสืบโมริเพราะคุณพ่อของรันเป็นนักสืบ และปิดเงียบความลับเอาไว้ไม่ให้ใครรู้
รันได้มาหาชินอิจิที่บ้านด้วยความเป็นห่วง และได้เห็นชินอิจิที่ตัวเล็กลงซึ่งรันไม่รู้ว่าเป็นชินอิจิ พอถูกรันถามชื่อ ชินอิจิก็เหลือบไปเห็นหนังสือนวนิยายด้านหลัง ที่มีชื่อนักเขียนชื่อดังอย่าง เอโดงาวะ รัมโป และ เซอร์อาร์เธอร์ โคนัน ดอยล์ ชินอิจิจึงตอบรันไปว่าตนชื่อ "เอโดงาวะ โคนัน" และเพื่อสืบข่าวคราวของชายชุดดำ โคนันจึงไปอาศัยอยู่กับรัน และ โมริ โคโกโร่ คุณพ่อของเธอที่เป็นนักสืบเอกชน
โคนันต้องกลับมาเรียนชั้นประถมศึกษาใหม่ เพื่อปกปิดความจริงของเขา และได้รู้จักกับ โคจิมะ เก็นตะ, ซึบุรายะ มิซึฮิโกะ, และ โยชิดะ อายูมิ จึงได้ก่อตั้งขบวนการนักสืบเยาวชนขึ้น
เนื่องด้วยโคนันจำเป็นต้องให้โคโกโร่มีชื่อเสียง เพื่อมีผู้ว่าจ้างให้ทำคดีเกี่ยวกับองค์กรชุดดำ โคนันจึงต้องช่วยคลี่คลายคดีด้วยอุปกรณ์หลัก 2 ชิ้น คือหูกระต่ายเปลี่ยนเสียง และนาฬิกายิงยาสลบ จนทำให้คนทั่วไปรู้จักในนามว่า "โคโกโร่นิทรา" เพราะเวลาคลี่คลายคดีจะทำท่าเหมือนกำลังนอนหลับ
ชินอิจิคลั่งไคล้เชอร์ล็อกโฮมส์ ตามคุณพ่ออย่างมาก ถ้าเป็นเรื่องเชอร์ล็อกโฮมส์ ชินอิจิแทบจะรอบรู้หมดทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดคดีต่างๆ ในนวนิยาย หรือชนิดของไวโอลินที่โฮมส์ชอบเล่น
คุณพ่อและคุณแม่ของชินอิจิไปอยู่ที่ ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนเขาก็อยู่ที่ ประเทศญี่ปุ่น คนเดียวตั้งแต่อายุ 14 ปี เพราะได้รับอิทธิพลมาจากคุณพ่อที่เป็นนักเขียนนิยายสืบสวน ทำให้เขามีบทบาทในฐานะนักสืบ ม.ปลาย ชินอิจิเป็นคนเฉลียวฉลาด มีไหวพริบรวดเร็ว ช่างสังเกต (และแม้จะเป็นรอยขีดข่วนเล็กๆ รอบตัวผู้ตายก็ให้ความสนใจ) มีความมั่นใจในตนเอง และด้วยความที่ชินอิจิเป็นคนที่ค่อนข้างจะติดเก๊ก ชอบพูดด้วยคำพูดคมคาย ทำให้เขาเนื้อหอมมาก มีสาวๆ มาคลั่งไคล้มากมาย
เขามีความสามารถพิเศษหลายอย่างเช่น เล่นฟุตบอล (เก่งระดับแข่งทีมชาติได้อย่างสบาย) เล่นไวโอลิน มี Perfect Picth (คือมีหูที่ดีมาก) ขับเฮลิคอปเตอร์ ขับเครื่องบิน ขับรถ ขับเรือ ยิงปืน (ทั้งหมดนี้ ชินอิจิให้การว่าคุณพ่อเป็นคนฝึกสอนให้ที่ ฮาวาย) แต่ชินอิจิต้องการฝึกเพื่อเป็นทักษะของนักสืบเท่านั้น ชินอิจิไม่ค่อยถนัดร้องเพลงเท่าไหร่ เสียงของเขาแย่มาก ถึงจะมี Perfect Picth หรือก็คือผู้มีโสดประสาทเป็นเลิศ สามารถแยกแยะคีย์เสียงได้แทบจะในทันที และเรื่องไวโอลินเป็นเลิศเหมือนเชอร์ล็อกโฮมส์ ส่งผลให้ในบางคดีเช่นในเดอะมูฟวี่ 12 เขาฟังการแสดงโอเปร่าและทราบทันทีว่าเครื่องเสียงมีความผิดปกติ จึงวางข้อสันนิษฐานได้อย่างถูกต้องว่ามีบางสิ่ง (ระเบิด) ติดอยู่ภายในเครื่องเสียงนั้น
หลังจากชินอิจิโดนจับกินยาพิษ APTX4869 จนกลายเป็นเด็กอายุ 7 ขวบและมีชื่อใหม่ว่า "เอโดงาวะ โคนัน" ทำให้ความสามารถบางส่วนถูกจำกัดลง เช่น การเตะไม่แรง ตัวเล็กลง เป็นต้น แต่ก็ยังมีความสามารถในด้านการสืบคดี สติปัญญา และความสามารถอื่นๆ บางส่วนอยู่ แต่การไปพัวพันเข้ากับคดีต่างๆ เพี่อสืบคดี มักมีอุปสรรคต่างๆ เพราะเห็นว่าเป็นเด็ก ตำรวจหรือไม่ก็ผู้ใหญ่มักไล่ออกไปจากที่เกิดเหตุหรือต้องถูก โมริ โคโกโร่ คุณพ่อของรันขับไล่ตะเพิดตลอด เพราะไม่ชอบให้มาวุ่นวายในที่เกิดเหตุ ด้วยความช่วยเหลือจาก ดร.อากาสะ ฮิโรชิ เขาได้ประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ ที่เป็นประโยชน์สืบสวนและคลี่คลายคดี เช่น หูกระต่ายเปลี่ยนเสียง นาฬิกายิงยาสลบ เป็นต้น
แม้ด้วยความสามารถการสืบคดีของชินอิจิจะสามารถจับคนร้ายได้ทุกครั้ง แต่มีบางครั้งที่ต้อนคนร้ายจนมุมจนถึงกับต้องฆ่าตัวตาย เขาจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นแบบนั้นเลย เพราะเขามีอดีตฝังใจ หลังเหตุการณ์คดีฆาตกรรมเปียโนโซนาต้าแสงจันทร์ที่ชินอิจิกลายเป็นโคนันปล่อยให้คนร้ายฆ่าตัวตายไปได้ และอีกอย่างเขาเคยพูดเอาไว้ว่า "นักสืบที่ต้อนให้คนร้ายจนมุมจนถึงต้องฆ่าตัวตายก็ไม่ต่างอะไรกับฆาตกรเลย"
ในเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน โคนันจะมีอุปกรณ์ที่ ดร.อากาสะ ฮิโรชิ ช่วยประดิษฐ์ขึ้นเพื่อประโยชน์ในการสืบสวน และการติดตามคนร้าย
หูกระต่ายสีแดงที่โคนันมักติดคอเสื้ออยู่เสมอเป็นเครื่องมือเปลี่ยนเสียงที่โคนันใช้เป็นประจำ เพราะโคนันไม่สามารถเปิดเผยตัวเองในการคลี่คลายคดีได้ จึงต้องยืมเสียงของคนอื่นมาพูดอีกทีหนึ่ง เสียงที่โคนันใช้ในการแก้ไขคดีบ่อยที่สุด คือ เสียงของ โมริ โคโกโร่ (หมายเลข 59)
เป็นรองเท้าที่ช่วยเพิ่มพลังเตะได้อย่างมาก เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าและพลังแม่เหล็กกระตุ้นจุดบนเท้า เพื่อเพิ่มพลังกล้ามเนื้อให้ถึงขีดสุด
เริ่มแรก ดร.อากาสะ ฮิโรชิ ได้นำแว่นตาดัดแปลงเป็นเครื่องรับสัญญาณดับฟัง แล้วใช้หางของแว่นตาเป็นที่ดักฟัง โคนันมักจะนำมาใช้ร่วมกับ หมากฝรั่ง
เป็นนาฬิกาที่สามารถยิงเข็มยาสลบให้คนสลบได้ โดยหน้าจอจะสามารถยิงแสงอินฟราเรดล็อกเป้าหมายได้ประมาณ 2 ม. เข็มจะเคลือบด้วยยาสลบชนิดออกฤทธิ์เฉียบพลัน ยาจะแพร่กระจายไปทั่วร่างกายภายในเวลาไม่ถึง 5 วินาที และการยิงจะสามารถยิงได้แค่ 1 ครั้งเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่โคนันจะยิงยาสลบกับ โมริ โคโกโร่ เพื่อใช้แก้ไขคดี และในเดอะมูฟวี่ 17 ได้มีการเพิ่มโทรศัพท์ดาวเทียมและแฟลชไดรฟ์อีกด้วย
ปรากฏเฉพาะในตอน คดีข่มขู่นักฟุตบอลอาชีพ เครื่องรับส่งแฟกซ์ที่มีรูปร่างเป็นกล่องข้าวปกติจะใส่ไว้ในเป้สะพายหลัง บ๊วยเค็มคือ สวิทช์เปิดเครื่อง เมื่อจะใช้งานแฟกซ์ต้องกดที่เม็ดบ๊วยที่อยู่กลางกล่องข้าว
ภายในเป็นวิทยุสื่อสารขนาดจิ๋ว ใช้รับ-ส่งเสียงสื่อสารกันได้ ใช้ปุ่มด้านหลังปรับคลื่นก็จะรับสัญญาณได้แล้ว ถ้ากดปุ่มก็จะส่งสัญญาณได้
สามารถใช้งานโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เมื่อกดปุ่มเร่งความเร็ว พลังงานแสงอาทิตย์จะถูกส่งผ่านแบตเตอรี่ไปยังมอเตอร์ ความเร็วสูงสุด คือ 80 กม./ชม. ถ้าใช้ในเวลากลางคืนจะใช้ได้ 30 นาที
แว่นตาที่โคนันใส่อยู่เป็นประจำที่จริงก็คือ เครื่องสะกดรอย ซึ่งช่วยในการติดตามคนร้ายได้ง่ายขึ้น โดยติดเครื่องส่งสัญญาณไว้ที่คนร้าย แล้วตำแหน่งที่อยู่ของคนร้ายซึ่งถูกติดเครื่องส่งสัญญาณไว้ที่คนร้าย แล้วตำแหน่งที่อยู่ของคนร้ายซึ่งถูกติดเครื่องส่งสัญญาณไว้จะปรากฏบนเลนส์แว่น ซึ่งเครื่องรับ-ส่งสัญญาณจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบกันเมื่ออยู่ภายในรัศมี 20 กม.
แค่กดปุ่มเดียวก็จะหดกลับมาจากสภาพที่กำลังยืด สามารถใช้งานได้สะดวก เช่น เวลาเกี่ยวของที่หนักให้ขึ้นมาโดยไม่ต้องใช้แรงของเรา เป็นต้น (ใน โคนันฉบับการ์ตูนภาพยนตร์ที่ 13 (ปริศนานักล่าทรชนทมิฬ) ได้ปรับปรุงใหม่ให้มีหน้าจอบอกความยาวด้วย)
ใช้เหมือนโทรศัพท์ทั่วไป แต่มีรูปร่างแปลกไปกว่าโทรศัพท์ธรรมดา (เป็นรูปต่างหู) โดยจะต้องกดหมายเลขก่อนนำหูฟังมาใส่หู
เป็นสิ่งประดิษฐ์อีกอย่างหนึ่งที่ด็อกเตอร์อากาสะประดิษฐ์ให้กับขบวนการนักสืบเยาวชนเอาไว้ฉายไฟในที่มืด
ปรากฏเฉพาะในตอน การคืนชีพที่เดิมพันด้วยชีวิต ชินอิจิที่กลับมา เพื่อเปลี่ยนเสียง ไฮบาระ ไอ เป็นเสียง เอโดงาวะ โคนัน
รูปร่างเหมือนเข็มขัดทั่วไป แต่สามารถยิงลูกบอลได้ แต่ลูกบอลที่ยิงออกมาจะคงรูปอยู่ได้แค่ 10 วินาทีเท่านั้น ต่อมาได้มีการพัฒนาให้ลูกบอลมีขนาดใหญ่และสามารถทำให้กลายเป็นดอกไม้ไฟได้เมื่อเตะขึ้นไปข้างบนท้องฟ้า
ปรากฏในโคนันฉบับการ์ตูนภาพยนตร์ที่ 3 (ปริศนาพ่อมดคนสุดท้ายแห่งศตวรรษ) เพื่อป้องกันกระสุนจากคนร้าย ซึ่งยิงเฉพาะตาขวาเท่านั้น
เป็นแว่นตาแบบพิเศษที่ ดร.อากาสะได้สร้างให้ โคนันได้ใช้ เป็นแว่นตาที่สามารถหาเป้าหมายในระยะไกลได้สามารถช่วยมองเห็นในกลางคืนได้ ซึ่งปรากฏในโคนันฉบับการ์ตูนภาพยนตร์หลายๆ ภาค ภาพยนตร์ที่ 5, 8, 11, 13, 14, 15 และ อะนิเมะ ในตอนที่ 506-507 ในชื่อตอน ตุ๊กตาหิมะที่ไม่แตก กับตอนที่ 631 ในชื่อตอน นาฬิกาดอกไม้ผู้รู้เห็นเหตุการณ์
ปรากฏเฉพาะในโคนันฉบับการ์ตูนภาพยนตร์ที่ 8 (มนตราแห่งรัตติกาลสีเงิน) เพื่อใช้ไล่ล่ากับ จอมโจรคิด
ปรากฏเฉพาะในโคนันฉบับการ์ตูนภาพยนตร์ที่ 11 (ปริศนามหาขุมทรัพย์โจรสลัด) เป็นอุปกรณ์ที่ ดร.อากาสะสร้างให้โคนันได้ใช้ดำน้ำ แต่ว่า สามารถใช้ได้เพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น
ปรากฏเฉพาะในโคนันฉบับการ์ตูนภาพยนตร์ที่ 15 (15 นาทีเฉียดวิกฤติมรณะ) มีที่ติดเทอร์โบ ลักษณะการใช้คล้ายกับ สเก็ตบอร์ดติดเทอร์โบ ซึ่ง ดร.อากาสะได้สร้างไว้ให้โคนันได้ใช้ใน พื้นที่ที่มีสภาพเป็นหิมะ
2.ปู่จิอิ(ผู้ช่วยจอมโจรคิด)เคยเป็นนักศึกษาที่ไปฝึกงาน และเจอเรื่องพวกนี้พอดีจึงขอให้ไคโตะของเราไปช่วยนั่นเอง
ตัวละคร คุโด้ ชินอิจิ นั้นได้ถูกดัดแปลงให้เป็นตัวละครที่มีผู้แสดงจริง ๆ ในซีรีส์ชุด I Love Tokyo Legend - Kawaii Detective (นักสืบหน้าใส ขอไขคดี) ซึ่งเป็นตัวละครหลัก ผู้ที่รับบทนี้ คือ จุนเป มิโซะบะตะ